ออกอากาศ : 2 เม.ย. - 26 มิ.ย. 2565
ช่องทางการรับชม : อมรินทร์ ทีวี เฮชดี 34
จำนวนตอน : 26
ประเภท : ดราม่า
ผู้กำกับ : เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข
บทประพันธ์ : เพลิงกฤษณา
บทโทรทัศน์ : มาวิน อักษรา
ควบคุมบทโทรทัศน์ : สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา
ควบคุมการผลิต : วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย
ป่ากามเทพ
“ขึ้นชื่อว่ากามเทพนั้น..
เมื่อท่านยิงธนูดอกที่ชื่อว่าความปรารถนาออกไปโดนอกใครสักคน
ก็ยากที่จะถอนให้พ้นออกไปได้
จนกว่าจะตายหรือจากกันไปให้รู้แล้วรู้รอด
หรือมิฉะนั้นก็ต้องหักห้ามใจตน ข้ามให้พ้นความทุกข์ทนด้วยตนเอง”
ชีวิตของ
“เคลีย” เด็กสาวกำพร้าคนหนึ่งได้พบสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้สำหรับตัวเธอ
นั่นคือการได้รับความเมตตาจาก “รำพร” และ “สดมภ์” ที่รับเธอมาดูแลตั้งแต่แรกเกิด
แม้ไม่ได้อยู่ในฐานะลูกแต่เคลียก็ไม่ได้ทุกข์ร้อน
ยิ่งเมื่อรำพรหย่าขาดกับสามีจอมเจ้าชู้ที่นอกใจเธอไปติดพันช่างเสริมสวย
เคลียก็เป็นคู่ใจเพียงคนเดียวของรำพรเสมอมา
รำพรสอนให้เคลียรู้จักรักนวลสงวนตัวและใช้บทเรียนของชีวิตคู่ที่ไม่สมหวังสอนให้เคลียระมัดระวังเรื่องความรัก
แต่เธอกลับไม่ระวังเสียเอง เมื่อได้พบกับ “อาชา”
นักศึกษาหนุ่มรูปหล่อที่มาเช่าหอพักของรำพรอยู่กับ “โสภณ” เพื่อนรุ่นพี่
รำพรหลงใหลได้ปลื้มอาชาอยู่เป็นทุนเดิมแต่ก็หาทางพัฒนาความสัมพันธ์ไม่ได้
จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้หอพัก
รำพรจึงเสนอให้อาชาและโสภณมาพักในบ้านของเธอและเอ่ยปากจะอุปการะส่งเสียให้อาชาได้เรียนจนจบ
นี่เป็นความปรารถนาอย่างสูงสุดขงอาชา เขาจึงไม่ปฏิเสธน้ำใจ
ต่อมาโสภณได้งานทำจึงแยกออกไปอาศัยที่อื่น
รำพรพยายามเอาใจอาชาและขยับสถานะเป็นคนรัก
นั่นทำให้เคลียไม่สบายใจนักเพราะเป็นห่วงรำพรและคลางแคลงสงสัยในตัวอาชาจากแววตาที่เขามองเธออย่างมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่
รำพรพาอาชากลับไปเยี่ยมบ้านของเขาที่บางปะอินและถือโอกาสพักผ่อน
“นางเนื่อง” และ “นายอ่วม” พ่อแม่ของอาชา และ “อำภา”
น้องสาวอาชาต้อนรับรำพรและเคลียเป็นอย่างดีตามประสาชาวบ้านต้อนรับผู้มีอันจะกิน
ทุกคนเข้าใจว่าเคลียเป็นคนรักของอาชาเพราะดูเหมาะสมกันดี
รำพรไม่พอใจนักจึงแสดงความเป็นเจ้าของอาชาให้ทุกคนเห็น ระหว่างนั้นรำพรป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่
“หมอโอภาส” ที่ประจำอยู่ที่อยุธยาจึงเข้ามารักษาให้และพบว่าเคลียเป็นเพื่อนกับ
“วาสนา” น้องสาวของตน เคลียและอาชาพายเรือไปส่งหมอโอภาส
ขากลับเรือของทั้งคู่โดนชนจนล่ม
อาชาช่วยชีวิตเคลียไว้ได้และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้ถูกเนื้อต้องตัวกัน
เคลียมองอาชาในแง่ดีขึ้นที่เขาช่วยชีวิตตน
อาชารู้ดีว่าเคลียมองเขาในแง่ร้ายมาโดยตลอดเหมือนเขามาเกาะกินทรัพย์สมบัติของรำพร
ซึ่งเขาก็ปวดร้าวไม่น้อยที่ต้องเป็นแบบนี้
พิษไข้จากการจมน้ำทำให้เคลียเก็บเรื่องอาชาไปฝันร้ายแล้วพบว่าลึกๆ
นั้นเธอหลงรักอาชาเข้าแล้ว แต่ความกตัญญูต่อรำพรนั้นต้องสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
เคลียป่วยหลายวันโดยมีหมอโอภาสคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
เพราะเขาชอบพอในความน่ารักของเคลีย รำพรสังเกตได้จึงบอกให้เคลียเปิดใจให้โอภาสบ้าง
แต่เคลียรู้ดีว่าเธอไม่ได้รู้สึกกับเขาแบบที่กำลังรู้สึกกับอาชา
วันหนึ่งรำพรพาเคลียและอาชาไปทานอาหารนอกบ้าน
ขากลับรำพรขับรถชนต้นไม้ เธอน้อยใจอาชามากที่เขาแสดงความห่วงใยเคลียเป็นพิเศษทั้งๆ
ที่เธอเจ็บหนักกว่า คืนนั้นอาชาทนเก็บความรู้สึกลึกๆ ไม่ไหว จึงสารภาพรักกับเคลีย
ทั้งคู่พยายามคิดหาทางออกให้กับความรักที่ก่อตัวขึ้น แต่ก็ยังไม่เห็นหนทาง
ส่วนหมอโอภาสก็แสดงความพอใจในตัวเคลียอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้เคลียซึ่งกำลังสับสนและปวดร้าวจึงเผลอให้ความหวังเขาโดยไม่รู้ตัว
อาชารู้เรื่องเคลียกับหมอโอภาสยิ่งหึงหวง
รำพรคิดไกลไปถึงการไถ่ที่นาให้พ่อแม่ของอาชาและจะส่งเสียเรื่องเรียนให้น้องของอาชาด้วย
อาชาปฏิเสธเพราะไม่อยากได้ชื่อว่ามาเอาทุกอย่างจากรำพรแบบนี้
รำพรย้ำว่าเธอรักเขาจริงๆ ต่อหน้าเคลีย
นั่นทำให้เคลียคิดหาทางตีตัวออกห่างจากรำพรและอาชา เพราะหวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้น อย่างน้อยคงทำให้รำพรมีความสุขขึ้น
เคลียขอร้องให้สดมภ์ช่วยหางานให้เธอทำเพราะเธอไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นอีก
สดมภ์รู้เรื่องรำพรกับอาชาก็ไม่พอใจและประชดด้วยการพาเคลียไปฝากให้เป็นช่างทำผมในร้านของ
“ผกาแก้ว” หญิงสาวเจ้าของร้านเสริมสวยที่สดมภ์ลงทุนเปิดร้านให้
ตอนแรกรำพรไม่รู้ว่างานที่เคลียพูดถึงนั้นเกี่ยวข้องกับสดมภ์
จึงอนุญาตให้เธอไปทำทั้งๆ ที่ไม่พอใจนักเพราะเคลียไม่เคยคิดอยากออกจากบ้านมาก่อน
วันที่เคลียจะย้ายออก
อาชาทักท้วงและดึงดันจนรำพรเห็นแล้วทนไม่ไหวจึงบอกทั้งคู่ว่าเธอรู้ดีในความรู้สึกที่อาชาและเคลียมีต่อกัน
เคลียยิ่งเสียใจและออกจากบ้านไปด้วยความตั้งใจที่จะหยุดปัญหาทุกอย่าง
หมอโอภาสมาหาเคลียและต้องพบกับความผิดหวังเมื่อเคลียพูดตามตรงว่าเธอรักอาชา
หมอโอภาสยอมรับความจริงและบอกเคลียว่าเขายังยินดีรอเธอเสมอ
อาชาร้อนใจคิดถึงเคลียจนต้องไปหาเธอที่ร้านเสริมสวยและพบสดมภ์โดยบังเอิญ
สดมภ์รู้สึกได้ว่าอาชากับเคลียรู้สึกพิเศษต่อกันและไม่เห็นด้วยที่รำพรทำกับอาชาแบบนี้
เขาจึงแกล้งรำพรด้วยการหาทางให้อาชาตีตัวออกห่างรำพร
สดมภ์จ้างอาชาให้ไปทำงานต่างจังหวัด
แต่รำพรก็เดินหมากอีกขั้นด้วยการรับพ่อแม่และหลานของอาชามาอยู่ที่บ้าน
เธอยิ่งโกรธแค้นสดมภ์ที่เข้ามายุ่มย่ามเรื่องเคลียและอาชา
อีกใจนั้นยอมรับความพ่ายแพ้ที่ว่าอาชาคงไม่ได้รักเธอแบบที่เธอฝัน
จึงตามเคลียให้กลับมาอยู่บ้าน เคลียต้องเลือกระหว่างงานและรำพร
เธอขอบคุณผกาแก้วสำหรับการดูแลเป็นอย่างดีและกลับบ้านไปอย่างจนใจ
รำพรเปลี่ยนแผนเป็นมีท่าทีใหม่ต่อเคลียและอาชา
เธอทำเป็นไม่หวาดระแวงเหมือนก่อนและทำท่าเหมือนสนับสนุนให้ทั้งสองคบกัน
เพราะอย่างน้อยการมีอาชาอยู่ในสายตาก็ยังเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
ทุกสิ่งจึงดำเนินต่อไป
ภายในวังวนของป่ากามเทพ ภายใต้ท่าทีที่ดูเหมือนยินยอม
รำพรก็ยังคงคิดช่วงชิงอาชากลับมาเป็นของเธอทุกลมหายใจ
อาชากับเคลียยังมีหัวใจให้กัน ภายใต้ความรู้สึกขัดแย้งของเคลีย
และความคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ในขณะที่สดมภ์ก็ยังคงหาทางขัดขวางความสุขของรำพร
และทำทุกอย่างให้รำพรเกลียดชังเขามากขึ้น โดยลืมถามตัวเองว่า
ทำไมจึงยังต้องทำอย่างนั้น
สุดท้าย ความรักที่วนเวียนในป่ากามเทพนี้จะลงเอยอย่างไร จะมีใครสักคนไหมที่มีโอกาสได้มีความสุขอย่างแท้จริงกับความรักครั้งนี้
ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์
วิลลี่ แมคอินทอช
อภิญญา สกุลเจริญสุข
นิธิดล ป้อมสุวรรณ
พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์
ปรียาดา สิทธาไชย
ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา
สุเชาว์ พงษ์วิไล